Trading in Foreign Exchange (ผมจะพูดถึงแค่ เรื่องนี้เท่านั้น ที่จริงแล้วมี Forward ที่อ้างอิงกับสินค้าอื่นๆอีกหลายอย่าง เช่น ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ตราสารหนี้ ราคาสินค้าเกษตร ฯลฯ)
ตลาดการซื้อขายเงินตราระหว่างประเทศเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่มาก ซึ่งผู้เล่นในตลาด มีทั้งนักธุรกิจ นักลงทุน นักเก็งกำไร ทั้งรายใหญ่ รายย่อย ซึ่งแต่ละคนมีมุมมองและวัตถุประสงค์ของการซื้อขายที่แตกต่างกันไป วันนี้ผมเลยอยากเขียนถึงสินค้าสองชนิด ที่คิดว่าจะออกในข้อสอบพรุ่งนี้ ฮา… นั่นก็คือ Forward และ Swap ครับ มาดูกันว่ามันคืออะไร มีลักษณะอย่างไร เขาทำเพื่ออะไร แล้วที่สำคัญที่สุด ที่หลายๆคนสับสนว่าอย่างไหนถึงจะเป็น Premium หรือ Discount
ก่อนที่จะอธิบายต่อไป เราต้องรู้จัก Spot rate กันก่อน Spot rate ก็คืออัตราแลกเปลี่ยน ณ ปัจจุบัน เช่น ปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB เท่ากับ 32.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ถ้าเราถือเงินดอลลาร์อยู่ $1000 ไปขอแลกเงินบาทธนาคารเขาแลกเงินดอลลาร์เป็นเงินบาท เราก็ได้เงินบาทมา 32,500 บาท (จริงๆต้องบวกค่าบริการอื่นๆ สุดท้ายมันก็เหลือไม่ถึง 32,500 หรอก)
เข้าใจ Spot rate กันไปแล้ว มาดูเรื่อง Forward rate กัน Forward rate เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าว่าเราจะซื้อหรือขายสินค้าในอนาคต 30 วัน, 60 วัน หรือ 90 วัน ข้างหน้า ที่อัตราตามที่กำหนด เช่น
Forward Exchange rate
Spot rate USD/THB 32.5
30 days USD/THB 33
60 days USD/THB 33.5
USD/THB USD/THB 34
ส่วนที่มาของ Forward rate ที่สถาบันการเงินกำหนดนั้น มาจากการคาดการณ์ปัจจัยหลายๆอย่าง แต่ผมจะอธิบายถึงปัจจัย Forward rate ที่เกิดจากความแตกต่างกันของอัตราดอกเบี้ยในแต่ละประเทศ เป็นหลักการที่เราเรียกว่า Interest Rate Parity(IRP) ซึ่งเราเรียนกันแล้วในวิชาเศรษฐศาสตร์เทอมที่แล้วนี่เอง
หลักการก็มีอยู่ว่า หากอัตราดอกเบี้ยของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน Forward rate จะเป็นตัวปรับให้ อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในแต่ละประเทศนั้นเท่ากัน
เพื่อไม่ให้เพื่อนๆ งงกับการคำนวณตัวเลข ผมจะยกตัวอย่างเป็นคำพูดดังนี้ครับ สมมติว่าประเทศไทยมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า US คน US ก็เลยแห่กันมาลงทุนในประเทศไทยกันเพราะได้ผลตอบแทนมากกว่าลงทุนในประเทศ การจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยจะต้องแลกเงินดอลลาร์เป็นเงินบาทซะก่อนจึงจะลงทุนได้ แน่นอนครับ ถึงจะได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในไทยสูงกว่า แต่ก็ยังมีความเสี่ยงในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ดี นักลงทุนที่กลัวความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนจึงหาทางลดความเสี่ยงดังกล่าวด้วยการซื้อ Forward เพื่อ Fix อัตราแลกเปลี่ยนที่จะแลกเงินบาทกลับเป็นเงินดอลลาร์ แต่ธนาคารไม่โง่หรอกครับ เขาก็จะตั้ง Forward rate ที่สูงกว่าปกติ หรือเรียกว่าจ่ายราคาที่ Premium ครับ (Ex: 32.5 -> 34 USD/THB) ซึ่งถ้าเป็นไปตามหลักการ IRP แล้ว Forward rate ในการแลกกลับเป็นเงินดอลลาร์ที่สูงขึ้นจะทำให้เงินที่ได้จากการลงทุนในไทย ไม่ได้แตกต่างกับการลงทุนใน US เลย (มาทำไมเนี่ย อยู่ที่ไหนก็ได้เท่ากันอยู่ดี)
สรุปง่ายๆคือ ประเทศไหนที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าก็จะกำหนด Forward rate ในการแลกเงินกลับไปประเทศที่อัตรา Premium แต่ในทางกลับกัน ถ้าอัตราดอกเบี้ยในประเทศต่ำกว่า Forward rate ที่ขาย ก็จะขายกันที่ราคา Discount ดังนั้นการลงทุนในแต่ละที่นั้น ไม่แตกต่างกันเลย (Eugene, p.894)
แต่ถ้าต้องการคำนวณเป็นตัวเลขก็มีสูตรในการหา Forward rate ดังนี้ครับ
Forward exchange rate/Spot exchange rate = (1 + rd)/(1+ rf)
rd = อัตราดอกเบี้ยในประเทศ
rf = อัตราดอกเบี้ยในต่างประเทศ
ลองแทนค่ากันดูนะ คำตอบที่ได้จะเหมือนกับด้านบนครับ อย่าเพิ่งงงนะครับ Forward Exchange rate กับ Exchange rate ต่างกันนิดหน่อยตรงที่
ถ้า Forward Exchange rate มากกว่า 1 ถือว่าเป็น Premium
แต่ถ้า Exchange rate เดิม เราเอาเงิน 1 ดอลลาร์แลกเป็นเงินบาทที่ 32.5 บาท แต่ตอนกลับเราเอาเงินบาท 34 บาทแลกคืนได้ 1 ดอลลาร์ อย่างนี้ก็จะเรียกว่านักลงทุนชาว US ต้องจ่ายเงินซื้อคืนที่อัตรา Premium เหมือนกัน ขึ้นกับว่าคุณเป็นนักลงทุนของประเทศไหนนั่นเอง
Forward rate ขอจบเท่านี้ครับ เดี๋ยวขอต่อเรื่อง Swap กัน
สัญญา Swap จะมีสัญญาสองอย่างเกิดขึ้นพร้อมกันคือ สัญญา Spot และ Forward ความหมายของมันก็คือว่า เราซื้อ(ขาย) ของตอนนี้ที่ราคา x บาท และสัญญาว่าจะขาย(ซื้อ)คืนที่ราคา y บาทในอนาคตข้างหน้า
ผมไม่ขอบอกรายละเอียดด้านการคำนวณนะครับ ผมคิดว่า Swap นี่เมื่อลองศึกษาไปลึกๆแล้ว บอกได้เลยว่ายากมาก มันจะมีเรื่อง Comparative advantage ที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เกิดการตั้งราคาที่แบ่งผลประโยชน์กัน ไม่ขอกล่าวละกัน
สัญญา Swap จะเกิดเมื่อมีผู้ต้องการอัตราผลตอบแทนที่คงที่ กับอีกคนหนึ่งอยากได้ผลตอบแทนที่ลอยตัว แต่ต้นทุนการหาเงินในแต่ละรูปแบบของแต่ละรายมีความแตกต่างกัน
สมมติว่าผมเป็นผู้จัดการกองทุนของสถาบันการเงินแห่งหนึ่งในประเทศไทยต้องการนำเงินไปลงทุนที่ US ตอนนี้ผมมีเงินเป็นเงินบาท ผมจึงไปตกลงกับธนาคารว่า จะขอทำ Swap ที่อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน (Spot rate) 32.5 บาท และจะขายเงินดอลลาร์คืนที่ Forward rate ในอีก 270 วันข้างหน้าซึ่งสมมติว่าอยู่ที่ 32 บาท บวกค่า Fee อีกนิดหน่อย
การทำ Swap นี้ ทำให้ผมสามารถขจัดความเสี่ยงในเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนไปได้ทั้งหมด เหลือแต่ความเสี่ยงจากการลงทุน ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับประเทศที่ไปลงทุนเท่านั้นครับ สบายตัว…
ผมขอกล่าวไว้เท่านี้ก่อนก็แล้วกัน คงช่วยให้เข้าใจขึ้นบ้าง(คาดว่านะ) ถ้าเพื่อนๆงงตรงไหนลอง Comment มา หรือโทรมาถามเราโดยตรงเลยก็ได้ เพราะงานนี้เราเขียนจากความเข้าใจของเราเอง อาจมีตรงส่วนไหนผิดพลาด จะได้รีบแก้ไข ไม่งั้นเดี๋ยวคนอื่นอ่านจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ สำหรับการสอบในพรุ่งนี้ขอให้ทุกๆคนตั้งใจทำให้เต็มที่นะครับ อาจเป็นครั้งสุดท้ายของใครบางคน ปล่อยเขาไป เรามาพยายามกันต่อปายย… เป็นกำลังใจให้ทุกๆคนค้าบ
ขอบพระคุณค่ะ
^^
LikeLike